บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8
วัน จันทร์ ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

กำหนดสาระที่ควรเรียนรู้
ตัวเด็ก
ธรรมชาติรอบตัว
สิ่งแวดล้อมรอบตัว
บุคคลและสถานที่
การเขียนแผนเคลื่อนไหวและจังหวะ
- แผนเคลื่อนไหว มี 2 แบบ : เคลื่อนที่ อยู่กับที่ มีอุปกรณ์ ไม่มีอุปกรณ์
- เคลื่อนไหวพื้นฐาน : สอนเลยไม่สนุก เพราะมันไม่สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้
- การเรียนรู้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคน ต้องสอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ คือการลงมือกระทำกับวัตถุด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตามความต้องการของเด็กโดยการเลือกและตัดสินใจด้วยตนเอง ผ่านการเล่น เอาดนตรี เดินเลียนแบบท่าต่างๆ กับจังหวะดนตรี
- จุดเน้นเคลื่อนไหวและจังหวะ : การคลื่อนไหวพื้นฐาน : เดิน วิ่ง กระโดด. อยู่กับที่ เคลื่อนที่ อุปกรณ์ ไม่อุปกรณ์
- วัตถุประสงค์เคลื่อนไหวและจังหวะ 1.ฟังและปฏิบัติตามคำสั่ง 2.ฟังและปฏิบัติตามคำบรรยาย
- ประเภทการเคลื่อนไหว : ตามจินตนาการ ข้อตกลง ผู้นำผู้ตาม ประกอบเพลง จินตนาการ นำไปสู่การเขียนแผน
-จังหวะเร็วช้า : เพื่อให้เด็กเห็นความแตกต่างว่าสิ่งที่ทำอยู่กับอย่างนี้มันแตกต่างกัน
- วิ่งเร็วๆ และหยุด : เพื่อให้เด็กทรงตัว
- เปลี่ยนสื่อที่เดิน :เดินด้วยเท้า เปลี่ยนเปนเดินด้วยส้นเท้า อีกวันปลายเท้า ด้านนอก ด้านใน ทุกส่วน เลือกโดยอิสระ คำสั่งเปลี่ยน เป็นฐานพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ อีกอาทิตย์เป็นเรื่องการกระโดด กระโดดมีอะไรบ้าง สองขา ขาเดียว ทิศทาง หน้าหลัง ขวา ซ้าย
- สัมพันธ์เนือหา : แมว เด็กเคลื่อนที่ตามคำบรรยายเรื่องของแมว เต้นเพลงแมว
- เครื่องมือ : แบบบันทึกการสังเกต
- ประเมินพัฒนาการ : เกณฑ์
- ขั้นตอน : .หาพื้นที่ .พื้นฐาน เครื่องเคาะ แผน

กิจกรรมเคลื่อนไหวตามจังหวะ เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกายอย่างอิสระตาม จังหวะ โดยใช้เสียงเพลงคำคล้องจองการปฏิบัติตามสัญญาณ ซึ่งจังหวะและดนตรีที่ใช้ประกอบได้แก่ เสียงตบมือเสียงเพลง เสียงเคาะไม้ เคาะเหล็ก ตีฉิ่ง กลอง ระนาด ฯลฯ มาประกอบการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดจินตนาการความคิกสร้างสรรค์ เด็กวัยนี้ร่างกายกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาใช้ส่วนต่างๆ ร่างกายยังคงมาผสมผสาน หรือประสานสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์มากนัก การเคลื่อนไหวร่างกายของเด็กอาจยังดูไม่มั่นคงโดยการเคลื่อนไหวมี 2 ประเภทด้วยกันคือ เคลื่อนไหวแบบอยู่กับที่และการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่
ข้อเสนอแนะ
1. ควรเริ่มกิจกรรมจากการเคลื่อนไหวที่เป็นอิสระ และมีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากมากนัก เช่นให้เด็กได้กระจายกันอยู่ในห้องหรือบริเวรที่ฝึก และให้เคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติของเด็ก
2. ควรให้เด็กได้แสดงออกด้วยตนเองอย่างอิสระ และเป็นไปตามความคิดของเด็กเองผู้สอนไม่ควรชี้แนะ
3. ควรเปิดโอกาสให้เด็กคิดหาวิธีเคลื่อนไหวทั้งที่ต้องเคลื่อนที่และไม่ต้อง เคลื่อนที่ เป็นรายบุคคล และเป็นคู่ เป็นกลุ่มไม่ควรเกิน 5-6 คน
4. ควรใช้สิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวเด็กเศษวัสดุต่างๆเช่นกระดาษหนังสือพิมพ์ เศษผ้า ท่อนไม้ เข้ามาช่วยในการเคลื่อนไหว และให้จังหวะ
5. ควรกำหนดจังหวะสัญญาณนัดหมายในการเคลื่อนไหวต่างๆ หรือเปลี่ยนท่าทาง หรือหยุดให้เด็กทราบเมื่อทำกิจกรรมทุกครั้ง
6. ควรสร้างกิจกรรมอย่างอิสระ ช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่น เพลิดเพลิน และรู้สึกสบาย และสนุกสนาน
7. ควรจัดให้มีการเล่นบ้างนานๆครั้ง เพื่อชวยให้เด็กสนใจมากขึ้น
8. กรณีเด็กที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรม ผู้สอนไม่ควรใช้วิธีบังคับ ควรให้เวลาและโน้มน้าวให้เด็กสนใจเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตามสมัครใจ
9. หลังจากเด็กได้ร่วมออกกำลังเคลื่อนไหวจังหวะต้องให้เด็กพักผ่อนโดยให้นอน เล่นบนพื้นห้อง นอนพัก หรือเล่นสมมติเป็นจังหวะช้าๆ เบาๆ สร้างความรู้สึกให้เด็กอยากพักผ่อน
        10. การจัดกิจกรรมควรจัดตามกำหนดตารางกิจกรรมประจำวัน และควรจัดให้เป็นที่น่าสนใจ เกิดความสนุกสนาน

คำศัพท์
cognitive flexibility = ความยืดหยุ่นทางปัญญา
Child character = ตัวเด็ก 
Natural surroundings = ธรรมชาติรอบตัว 
MOTION = การเคลื่อนไหว
IMAGINATION = จินตนาการ

การประเมิน
อาจารย์=สอนได้สนุก มีการแชร์ข้อมูลกันและกัน สร้างความสนุกสนาน
เพื่อน=ตั้งใจเรียน แต่งกายเรียบร้อย
ตนเอง=ตรงต่อเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจเรียน


ความคิดเห็น